วิธีการเลี้ยง
 
     
   
 

 

 

 

 

 

. . . . เนื่องจากปลากัดเป็นปลาที่มีนิสัยก้าวร้าว ชอบต่อสู้เมื่อปลาอายุประมาณ 1.5 - 2 เดือนดังที่กล่าวมาแล้ว การเลี้ยงปลากัดจึงจำเป็นต้องรีบแยก ปลากัดเลี้ยงในภาชนะเช่น ขวดแบนเพียงตัวเดียว ก่อนที่ปลาจะมีพฤติกรรมต่อสู้กัน หากแยกปลาช้าเกินไปปลาอาจจะบอบช้ำไม่แข็งแรงหรือพิการ ได้

 

เนื่องจาก ปลากัดกันเอง ควรจะแยกปลากัดเลี้ยงเดี่ยว ๆ ทันทีที่สามารถแยกเพศได้ ซึ่งเมื่อลูกปลามีอายุประมาณ 1.5 - 2 เดือน จะสังเกตเห็นว่า ปลาเพศผู้จะมีลำตัวสีเข้ม ครีบยาว ลายบนลำตัวมองเห็นไม่ชัดเจน และขนาดมักจะมีโตกว่าเพศเมีย ส่วนปลาเพศเมีย จะมีสีซีดจาง มีลายพาดตามความยาวของลำตัว 2 - 3 แถบ และมักจะมี ขนาดเล็กกว่าปลาเพศผู้ ภาชนะที่ใช้เลี้ยงปลากัดควรเป็นภาชนะขนาดเล็กที่ ไม่สิ้นเปลืองเนื้อที่มีช่องเปิดไม่กว้างมาก เพื่อป้องกันปลากระโดดและป้องกันศัตรูของปลา เช่น แมว จิ้งจก ฯลฯ
 

. . . . ภาชนะที่เหมาะสมที่สุดที่ควรนำมา ใช้ในการเลี้ยงปลากัดได้แก่ ขวด(สุรา) ชนิดแบน บรรจุน้ำได้ 150 ซีซี. เพราะสามารถวางเรียงกันได้ดีไม่สิ้นเปลือง เนื่อที่ และปากขวดแคบ ๆ สามารถป้องกันปลากระโดดและป้องกันศัตรูได้เป็นอย่างดี และหากมีเนื้อที่น้อยก็สามารถทำชั้นวางขวดปลากัดเป็นชั้น ๆ แบบขั้นบันไดได้ มีผู้พยายามคิดวิธีเลี้ยงปลากัดในภาชนะขนาดใหญ่ โดยมีตาข่ายเหล็ก ตาข่ายพลาสติก หรือแผ่นอลูมิเนียมเจาะรูกันเป็นช่อง ๆ เพื่อเลี้ยงปลากัด ช่องละ 1 ตัว ซึ่งเป็นการสะดวกและประหยัดเวลาในการถ่ายเทน้ำ แต่ทั้งนี้ช่องตาข่ายต้องไม่กว้างมากจนทำให้ปลากัดกันได้ และต้องระวังอย่าให ปลากระโดดโดยอาจใช้ตาข่ายครอบ ด้านบนอีกทีหนึ่ง

 

. . . . สถานที่วางภาชนะเลี้ยงปลากัดควรเป็นที่ ๆ อากาศถ่ายเทได้ดีในฤดูร้อน เนื่องจากอากาศร้อน จะทำให้อุณภูมิน้ำสูงเกินไปเป็นสาเหตุให้ปลากัดตายได้ ( อุณหภูมิน้ำไม่ควรเกิน 30 องศาเซลเซียส) ส่วนในฤดูหนาว อุณภูมิน้ำที่ต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส ก็ทำให้ปลากินอาหารน้อย หรือไม่กินอาหารเลย เป็นสาเหตุให้ปลาตายได้เช่นกัน น้ำที่ใช้เลี้ยงปลากัดต้องเป็นน้ำที่สะอาดปราศจากคลอรีน มีความเป็นกรด - ด่าง(pH) ประมาณ 6.5-7.5 หลังจากทำความสะอาดขวดแล้วควรบรรจุน้ำเพียง 3/4 ขวด เพื่อเว้นช่องว่างให้อากาศให้สัมผัสกับผิวน้ำ และปลากัดสามารถขึ้นมาฮุบอากาศ บริเวณผิวน้ำได้ เนื่องจากปลากัดสามารหายใจได้โดยการฮุบอากาศบริเวณผิวน้ำจึงไม่จำเป็นต้องใช้ เครื่องเพิ่มออกซิเจน
     
   
     
. . . การปล่อยปลาลงขวด ต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง หากปล่อยให้ปลาตกบนพื้นอาจทำให้ปลาบอบช้ำ เป็นโรคและตายได้ การวางขวดที่เลี้ยงปลาเพศผู้ และเพศเมียควรแยกจากกัน เพื่อความสะดวกในการจัดคู่เมื่อต้องการผสมพันธุ์ ปลากัดเป็นปลาที่ชอบกินสัตว์น้ำขนาดเล็กที่มีชีวิตเป็นอาหาร อาหารที่เหมาะสมได้แก่ ลูกน้ำ หนอนแดง ไรสีน้ำตาล(Artemia) ที่มีชีวิต ในบางฤดูหากไม่สามารถหาอาหาร ดังกล่าวได้ก็สามารถให้อาหารเนื้อประเภทอื่นที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทดแทนได้ เช่น หัวใจวัว ปลากุ้ง เนื้อหมู เป็นต้น แต่ปลาจะไม่แข็งแรงและน้ำเน่าเสียได้ง่าย ซึ่งเป็นเหตุให้ความสมบูรณ์เพศ ไม่ดีเท่าที่ควร อาจทำให้ขบวนการ ผลิตลูกปลาหยุดชงักได้ การให้อาหารควรให้วันละ 1 ครั้ง โดยให้ปริมาณที่พอดีปลากินอิ่ม หากให้อาหารมากเกินไป
     

. . . เป็นสาเหตุให้ปลาเป็นโรคและอาจตายได้ แต่ถ้าให้น้อยเกินไปก็จะทำให้ปลาไม่มีความสมบูรณ์เพศ ไม่สามารถเพาะพันธุ์ได้ และเนื่องจากอาหารที่มีชีวิตส่วนมาก มักจะได้มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งอาจจะมีเชื้อโรคที่ติดต่อถึงปลาได้ ดังนั้นก่อนจะให้อาหารปลาทุกครั้งต้องล้างให้สะอาด แล้วแช่ในด่างทับทิมเข้มข้น 500-1,000 ส่วนในล้านส่วน (0.5-1.0 กรัม/ลิตร) เป็นเวลา 20 นาที เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับอาหารหลังจากนั้นจึงล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
     
     
ปลากัดลูกทุ่ง | ปลากัดลูกหม้อ | ปลากัดลูกผสม
อาหารที่ใช้เลี้ยงปลากัด | การเลี้ยงเพื่อการแข่งขัน | การเพราะเลี้ยงลูกน้ำ | การเพาะเลี้ยงไรแดง
     
     
@ Copyright by thaibetta